สุดยอดโปรแกรม VECTOR

สุดยอดโปรแกรมกราฟฟิกแบบ Vector

1. โปรแกรม Adobe Illustrator เป็นซอฟแวร์เวคเตอร์ที่นิยมที่สุดและเป็นโปรแกรมที่กราฟฟิกดีไซน์เนอร์เมืองไทยและทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด

2. โปรแกรม Sketch เป็นโปรแกรมที่สร้างกราฟฟิกแบบเวคเตอร์ที่สร้างสรรค์ความคิดให้เป็นกราฟฟิกได้อย่างง่าย

3. โปรแกรม CorelDRAW เป็นโปรแกรมเวคเตอร์ค่ายพีซีที่คนไทยใช้มากที่สุด เป็นโปรแกรมที่ใช้ง่ายแต่ช่วงหลังที่แม็คอินทอชเป็นที่นิยมมากกว่าในธุรกิจกราฟฟิก CorelDraw ใช้น้อยลงแต่ก็ยังนิยมในตลาดคนไทย

4. โปรแกรม Affinity Designer เป็นโปรแกรมเวคเตอร์ที่ได้รับรางวัล Apple Design Award ในปี 2015 เป็นโปรแกรมที่ปรับเครื่องมือ Vector กับ Raster เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

5. โปรแกรม Inkscape เป็นโปรแกรมเวคเตอร์ฟรีที่นำมาใช้ได้

6. โปรแกรม Lunacy เป็นโปรแกรมเวคเตอร์ฟรี ซึ่งเป็นโปรแกรม Windows ซึ่งระดับใช้ฟรีในระดับเริ่มต้น

7. โปรแกรม DrawPad เป็นโปรแกรมวาดงานกราฟฟิกระบบ Mac ซึ่งทำงานได้ง่าย

8. โปรแกรม Vecteezy Editor เป็นโปรแกรมวาดงานกราฟฟิกเวคเตอร์ระบบออนไลน์แบบฟรี

สนใจผลิตงานพิมพ์ ติดต่อโรงพิมพ์ลักษมีรุ่ง โรงพิมพ์ลาดพร้าว บางกะปิ ผลิตสิ่งพิมพ์คุณภาพ ติดต่อ Line ID : @laxmirung และ เว็ปไซท์ https://www.laxmirung.com/

เปรียบเทียบงานพิมพ์ Digital Offset และ Offset

ข้อดีของระบบดิจิตอลที่เหนือกว่าระบบออฟเซ็ท

งานพิมพ์ดิจิตอล (Digital Offset)

- รวดเร็ว ประหยัดเวลา เพราะสามารถนำไฟล์งานเข้าเครื่องและปรู๊ฟทางหน้าจอ ผลิตงานได้ทันทีที่ต้องการ

- แก้ไขงานได้ทุกเวลา หากไฟล์ใหม่ที่แก้ไขเรียบร้อยก็แค่ส่งไฟล์ใหม่ให้ทางโรงพิมพ์แทนไฟล์เดิมก็พร้อมผลิตได้ทันที

- ลงทุนไม่มาก สามารถพิมพ์งานหนังสือแค่เล่มเดียว หรือเท่าที่จำนวนที่ต้องการ สั่งพิมพ์ตามจำนวน ปรับแบบในแต่ละเล่มได้ ไม่ต้องลงทุนสูงในการทำงานจำนวนน้อยเล่ม

งานพิมพ์ออฟเซ็ท (Offset)

- ใช้เวลาการผลิตนานกว่า เพราะว่าต้องแยกสีทำเพลทก่อนเข้าเครื่องพิมพ์

- แก้ไขงานยากกว่า เพราะหากต้องการแก้ไข ต้องทำเพลทใหม่ ซึ่งทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการทำเพลทใหม่ด้วย

- ลงทุนสูงกว่า เพราะระบบออฟเซ็ทเหมาะกับงานพิมพ์ประมาณ 200 เล่มขึ้นไปถึงจะคุ้มในการทำเพลทและพิมพ์

สนใจงานพิมพ์ติดต่อ โรงพิมพ์ลักษมีรุ่ง https://www.laxmirung.com

การเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาด ด้วยการผสมผสาน Direct Mail กับ Direct Marketing

5 วิธีในการผนวกการทำตลาดแบบ Direct Mail โดยใช้ Digital Marketing อย่างแนบเนียน

ปัจจุบันการตลาด Digital Marketing ใช้กันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นการการตลาดบนเว็ป, อีเมล์, หรือบน Social Media ต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, Twitter หรือ Youtube โดยหลายท่านได้ลืมการใช้ระบบการตลาดที่เคยมีประสิทธิภาพคือ Direct Mail ซึ่งในความจริงเราสามารถผนวกการทำตลาดแบบ Direct Mail ด้วยระบบ Digital Marketing ได้อย่างแนบเนียน การใช้ช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ร่วมกันจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น โดยการผสมผสานจะทำให้การเข้าถึงแบรนดิ้งและสร้างโอกาสในการขายมากขึ้นด้วย

ประโยชน์ของการใช้การตลาดแบบผสมผสาน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าระบบการตลาดแบบ Direct Marketing จะเป็นที่นิยม แต่ก็มีลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการประสบการณ์ที่จับต้องได้ ประสบการณ์ที่สามารถสัมผัสสื่อได้ด้วยตัวเองจริง ๆ Direct Mail จึงยังเป็นเครื่องมือการตลาดที่ช่วยให้ตอบสนองความต้องการนี้ได้แม้จะอยู่ในยุคของดิจิตอลเฟื่องฟู 

มีการศึกษาโดยอ้างอิงจาก Harvard Business Review พบว่ามีการ "กลับมา" ของการใช้แคตตาล็อกที่พิมพ์ปกติมากขึ้น มีธุรกิจจำนวนมากที่ตระหนักถึงการสมผสานความพยายามทางการใช้การตลาดดิจิตอลร่วมกับการส่งจดหมายแคตตาล็อกให้ลูกค้าเพื่อให้ได้รับการยอมรับที่สูงขึ้น ผู้บริโภคยังคงต้องการสิ่งที่พวกเขาสามารถสัมผัส ถือ หรือมองเห็นได้ 

จากการศึกษาพบว่า ลูกค้าที่ได้รับการส่งอีเมล์รวมถึงการได้รับแคตตาล็อกในรูปแบบการพิมพ์ทางไปรษณีย์ ช่วยให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 15% และมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 27%  ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาก็ยังพบว่า 90% ของลูกค้าที่เปิดและดูแคตตาล็อกจะเก็บแคตตาล็อกที่พิมพ์ด้วยระบบเดิมไว้โดยเฉลี่ยถึง 7 วัน 

การตลาดแบบบูรณาการจึงช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดได้สูงขึ้นแะได้รับผลภัพธ์ทางการตลาดที่ดีขึ้นโดยไม่พึ่งพาระบบการตลาดระบบใดระบบหนึ่ง แต่เป็นการผสมผสานความพยายามทางการตลาดอย่างมีกลยุทธ์ที่นำประสิทธิภาพได้สูงที่สุดเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการตลาด

การใช้เครื่องมือ Digital Marketing เพื่อสนับสนุนแคมเปญการตลาดที่ส่งโบรชัวร์ แคตตาล็อก ไปให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ช่วยให้หลายองค์กรได้รับการรับรู้และไว้วางใจจากลูกค้าอย่างแน่นอน Direct Mail ที่ออกแบบกราฟฟิกดีไซน์ที่ดีและใช้สีสันการออกแบบที่ดีจะช่วยให้ท่านสามารถเล่าเรื่องราวของสินค้าหรือบริการของท่านได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้นและน่าดึงดูดขึ้น งานพิมพ์ทางกายภาพจะคลิ๊กกับสมองของผู้บริโภคและทำให้ประสบการณ์นั้นดูจับต้องได้ สมจริงยิ่งขึ้น ดึงดูดยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงยังคงควรใช้การตลาดแบบผสมผสานโดยใช้ทั้ง Digital Marketing เป็นช่องทางในการส่ง โบรชัวร์ แคตตาล็อก ใบปลิว แผ่นพับ ไปยังลูกค้าทาง Direct Mail ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับองค์กรและนักการตลาดอย่างแท้จริง

5 เคล็ดลับในการผสมผสาน Direct Mail กับ Direct Marketing

1. สร้าง Lead ใน Direct Mail

Lead ทางการตลาดคือ กลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่น่าจะสนใจสินค้าหรือบริการที่เราเสนอแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะซื้อ การออกแบบกราฟฟิกดีไซน์ โบรชัวร์หรือแคตตาล็อก ที่ส่งให้ลูกค้าทาง Direct Mail ที่มีการวางแผนในส่วนเนื้อหาและกราฟฟิกที่สวยงามโดยส่งให้ผ่านระบบที่ถูกต้องทางการตลาด Digital Marketing จะย่อมสร้าง Lead ให้กับสินค้าและบริการ เช่น การโปรโมทสินค้าหรือบริการทางสื่อ Social Media และให้ผู้สนใจแจ้งที่อยู่เพื่อส่งโบรชัวร์หรือแคตตาล็อกให้ ย่อมทำให้เกิด Lead ทางการตลาด หรืออาจได้ลูกค้าที่สั่งสินค้าและบริการได้ เมื่อส่ง Direct Mail แล้วควรมีการตลาดต่อเนื่องโดยส่งกลับ Follow Up เพื่อเพิ่มการติดต่อหรือเชื่อมต่อกับลูกค้าให้ได้อัตราการตอบกลับที่สูงขึ้น

2. ติดรหัส QR Code ในสื่อ Direct Mail

อย่าลืมที่จะพิมพ์ QR Code ลงในโบรชัวร์หรือแคตตาล็อก ที่เราส่งให้ลูกค้าทาง Direct Mail เพราะเป้าหมายของการส่ง Direct Mail คือการทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ของเราได้ง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งระบบการใช้ QR Code สแกนทางมือถือเป็นวิธีที่ทำงานได้ง่าย นอกจากการใช้ QR Code สำหรับการตอบสนองการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ หากเราต้องการติดต่อทางคอมพิวเตอร์ พยายามใช้บริการรหัสย่อ Bit.ly ซึ่งเป็นการย่อ URL ที่เราต้องจำยาว ๆ ให้เหลือสั้นลง ง่ายต่อการเข้าถึงของลุกค้า

3. ยื่นข้อเสนอที่ลูกค้าไม่สามารถเพิกเฉยได้

ภายในโบรชัวร์หรือแคตตาล็อกที่เราทำ Direct Mail ควรใส่รหัสคูปองหรือข้อเสนอพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้แลกทางออนไลฯื รหัสคูปองก็เป็นวิธีที่เยี่ยมยอดในการทดสอบ A/B ในความสำเร็จของตัว Direct Mail เราได้อีกด้วย ท่านควรตรวจสอบและวางแผนการตลาดให้ดีเพื่อดูว่าข้อความและข้อเสนอการส่งเสริมการขายใดที่โดยใจลูกค้า

4. ใช้ Gate Content ใน Direct Mail 

Gate Content คือ การสร้างเนื้อหาที่ต้องมีแบบฟอร์มอะไรบางอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลก่อนที่จะเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ เช่น ชื่อ-นามสกุล, อีเมล์, LINE ID, เบอร์โทร, ตำแหน่ง, ชื่อบริษัท เป็นต้น  วิธีการคือนอกจากเราจะเสนอคูปองให้กับกลุ่มเป้าหมาย เรายังสามารถเสนอลูกค้าให้เข้าไปยัง Landing Page เพื่อกรอกข้อมูลเพื่อที่เราจะส่งตัวอย่างสินค้าหรือผลประโยชน์บางอย่างให้ลูกค้า โดยแจ้งทางโบรชัวร์หรือแคตตาล็อก เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมเข้าไปกรอกข้อมูล ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลที่ลูกค้ากรอกมาทำการตลาดต่อเนื่องในอนาคตได้

5.เชื่อมโยงลูกค้าให้เข้าสู่สังคมออนไลน์

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันการติดต่อทาง Social Media เป็นสิ่งที่แพร่หลายและเป็นเป้าหลักของนักการตลาดที่พยายามเข้าถึง การผสมผสาน Direct Mail เพื่อให้ลูกค้าเราเข้าสู่การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญ ในโบรชัวร์หรือแคตตาล็อกจึงควรใส่ข้อมูล Social Media ทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็น LINE ID, Facebook, Instagram, Twitter, Youtube เป็นต้น สิ่งที่สำคัญคือช่องทางที่เราส่งให้ลูกค้าต้องเป็นช่องทางที่ไม่ใช่แค่ลูกค้าเข้าไปดูเฉย ๆ แต่เราต้องการช่องทางเหล่านั้นให้เอื้อต่อการที่ลูกค้าเข้าไปแล้วจะมีโอกาสเข้าถึงสินค้าและบริการของคุณและสั่งซื้อสินค้าเป็นลูกค้าอย่างแท้จริงด้วย

บริการงานพิมพ์ โบรชัวร์ แคตตาล็อก แผ่นพับ ใบปลิว สำหรับ Direct Mail

ท่านที่มีความต้องการติดต่อโรงพิมพ์ หรือ Printing House สำหรับการผลิตสื่อการตลาด Direct Mail ทั้ง โบรชัวร์ แคตตาล็อก แผ่นพับ หรือ ใบปลิว สามารถติดต่อได้กับโรงพิมพ์ประสบการณ์สูงกว่า 30 ปี ที่ได้รับการยอมรับในวงการพิมพ์ประเทศไทย ติดต่อสอบถาม ธนินพงษ์ ศุภพิทักษ์พงษ์ บริษัท ลักษมีรุ่ง จำกัด โรงพิมพ์ลาดพร้าว 101 หรือพูดคุยขอราคาทาง LINE Official : @laxmirung เพื่อขอราคาและคำแนะนำให้การผลิตงานพิมพ์ Direct Mail ได้

ทำการตลาดด้วยโปสการ์ด

เมื่อถึงเวลาที่ต้องเผยแพร่เกี่ยวกับธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณ ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย วิธีการตลาดแบบเก่าบางอย่างก็ยังใช้ได้ผลดีมาก เช่น การพิมพ์โปสการ์ด หรือโปสการ์ดที่แนบคูปองโดยออกแบบเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย การตลาดด้วยโปสการ์ดใช้ประโยชน์จากความเรียบง่ายและข้อความที่อ่านง่าย ด้านล่างนี้คือเหตุผลบางประการที่คุณควรใช้ไปรษณียบัตรธุรกิจเพื่อทำการตลาดให้กับบริษัทของคุณ

การออกแบบโปสการ์ดของคุณ

ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้ได้ทันที

การใช้สีที่เป็นตัวหนาและฟอนต์ขนาดใหญ่ที่อ่านง่ายสามารถช่วยดึงดูดความสนใจของผู้รับได้ทันที ทำให้คุณสามารถส่งข้อความของคุณไปยังผู้ชมที่กว้างขึ้นได้ การรวมภาพถ่ายเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่และน่าดึงดูดยังสามารถดึงดูดความสนใจของพวกเขาและสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาสำหรับบริการหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ ภาพที่ยอดเยี่ยมสามารถกระตุ้นอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่รูปภาพได้รับความสนใจ ข้อความสั้น ๆ ของคุณจะอธิบายทุกสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าทำไมพวกเขาจึงควรติดต่อคุณ

ข้อความได้รับการอ่าน

เหตุผลประการหนึ่งที่พิมพ์โปสการ์ดได้ผลดีก็เพราะผู้คนเข้าใจข้อความของคุณและเห็นข้อความนั้นทันที ไม่จำเป็นต้องเปิดซองจดหมายหรือต้องเปิดอ่านหลายๆ หน้าเพื่อหาข้อความของคุณ ทั้งหมดนี้อยู่ตรงหน้าพวกเขา - ทันที - และพวกเขาก็สามารถอ่านได้อย่างรวดเร็ว

รวมคูปองเพื่อเพิ่มยอดขาย

มีขนาดใหญ่พอที่จะให้คุณใส่คูปองพิเศษในการออกแบบที่จะช่วยให้ผู้รับดำเนินการตามข้อเสนอของคุณ ขนาดของมันช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถวางบัตรหรือคูปองของคุณในที่ที่พวกเขามองเห็นได้บ่อยๆ หรือบนตู้เย็น

สนใจพิมพ์โปสการ์ดหรือคูปองส่งเสริมการตลาด ติดต่อสอบถามรายละเอียดการพิมพ์ได้ที่ บริษัท ลักษมีรุ่ง จำกัด โรงพิมพ์ลาดพร้าว โรงพิมพ์ครบวงจร รับผลิตงานพิมพ์ทั้ง โปสการ์ด คูปอง ถุงกระดาษ สติ๊กเกอร์ติดรถ และงานพิมพ์อื่น ดูรายละเอียดบริการงานพิมพ์ได้ที่ https://laxmirung.com หรือติดต่อขอราคาและพูดคุยเพิ่มเติมได้ทาง LINE Official : @laxmirung

การใช้ Social Proof และ เทคนิค Storytelling เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสื่อการตลาดแบบ Direct Mail

การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในรูปแบบของ Social Proof หรือการที่คนในสังคมออนไลน์รีวิวประสบการณ์ในการใช้สินค้าหรือบริการ เช่น ประสบการณ์ที่ประทับใจและมีความสุขในการซื้อสินค้าหรือบริการ ความรู้สึกการเลือกที่ปลอดภัย รู้สึกเลือกสินค้าที่ถูกต้อง เป็นหลักฐานในสังคมที่ทำให้ผู้ซื้อมีความรู้สึกว่าเขากำลังเลือกสิ่งที่ถูกต้อง ความพยายามของฝ่ายการตลาดที่พยายามทำให้มีการวิพากวิจารณ์สินค้าหรือบริการขอเราในแง่บวกจะทรงพลังมาก ๆ เป็นการเพิ่ม Word of Mouth ซึ่งเป็นการตลาดที่ให้ประสิทธิภาพสูงที่สุด 

ในการทำ Direct Mail หรือ การส่งโบรชัวร์หรือแคตตาล็อกให้ลูกค้าผ่านทางจดหมาย ซึ่งก็ยังคงเป็นการตลาดแบบออฟไลน์ที่ยังคงมีประโยชน์อยู่ ซึ่งโบรชัวร์เหล่านี้ต้องทำการพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลออฟเซ็ทหรือออฟเซ็ท ข้อมูลในโบรชัวร์ควรต้องมี Social Proof เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาด

• แสดงบทความที่ขออนุญาติลูกค้าที่เคยใช้สินค้าหรือบริการ ในการทำ Customer Testimonial  เพื่อแสดงถึงประสบการณ์ที่ดีในการใช้สินค้าหรือบริการของเรา
• ใส่ข้อมูลในรูปแบบกรณีศึกษา หรือ Case Study ของลูกค้าที่ใช้สินค้าหรือบริการของเรา
• เน้นปริมาณลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการของเรา ให้เน้นแสดงจำนวนเพื่อให้เกิดความมั่นใจของลูกค้าใหม่ในการลองเข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการของเรา
• ใช้คำพูดในโบรชัวร์ที่ให้ผลบวก เช่น นิยมสูงสุด, ขายดีที่สุด, ได้รับการยอมรับมากที่สุด, เป็นต้น
• ให้เพิ่มข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ

สำหรับเทคนิคของ Storytelling หรือการเล่าเรื่องราว ในการวิจัยตลาดพบว่า "การเล่าเรื่อง" ไม่ใช่การแสดงข้อเท็จจริง แต่เป็นการเล่าเรื่องราวเพื่อเน้นการเข้าสู่การประมวลผลในสมองของกลุ่มลูกค้าที่เรากำหนดไว้ คนจะเข้าใจได้ดีขึ้นและจดจำข้อมูลได้มากขึ้นถ้าเราออกแบบโบรชัวร์แบบเล่าเรื่อง เช่น การใช้สินค้าของเราแล้วทำให้ชีวิตของตัวอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างไร ฯลฯ การเล่าเรื่องที่ดีจะทำให้เกิดการผลักดันให้มีการซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะลูกค้าจะจดจำและมีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวที่เราวางไว้ สมองของลูกค้าจะหลั่งสาร Dopamine และฮอร์โมนอื่น ๆ ที่ให้ความสุข มุ่งความสนใจและช่วยให้วางใจ การเล่าเรื่องที่ดีจะทำให้เกิดการจดจำมากขึ้นถึง 22 เท่าเทียบกับการจดจำแบบธรรมดา 

การออกแบบเนื้อหาเพื่อทำการตลาดโดยใช้เทคนิค Storytelling ต้องอย่าลืมรายการ Checklist ดังนี้

• เริ่มเล่าเรื่องด้วยคำพูดที่ดึงดูดความสนใจ
• เลือกเล่าเรื่องที่น่าสนใจ
• สร้างความต่อเนื่องของเรื่องราวให้สัมพันธ์กันให้ดี
• เลือกคำนามและคำพูดที่ทรงพลังและให้ความเชื่อในเชิงบวก
• จินตนาการในการเขียนเรื่องราวให้น่าสนใจ
• เนื้อหาต้องสร้างความอยากรู้อยากเห็นต่อและสร้างความเชื่อ

สำหรับเรื่องราวที่เราควรเขียนในรูปแบบ Storytelling มีตัวอย่างได้หลากหลายรูปแบบ

• เล่าเรื่องที่สามารถอธิบายรายละเอียดที่ซับซ้อนและยากหรือละเอียดอ่อน
• เล่าเรื่องประวัติบริษัท หรือที่มาของธุรกิจ หรือ ที่มาของสินค้าและบริการ
• เล่าเรื่องเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม
• เล่าเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ที่ใช้สินค้าและบริการ
• เล่าเรื่องของผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการใช้สินค้าและบริการ
• เล่าเรื่องความแตกต่างของสินค้าและบริการของเราที่ต่างจากคู่แข่งขัน
• เล่าเรื่องลูกค้าที่มีความแตกต่างหรือคนที่มีชื่อเสียง

ลูกค้าที่ต้องการออกแบบโบรชัวร์ แคตตาล็อค แผ่นพับ หรือ ใบปลิว อย่าลืมคำแนะนำด้านบนโดยใช้หลักของ Social Proof และ Storytelling เพื่อช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการทำเนื้อหาให้เกิดผลการตลาดอย่างดี แต่สำหรับท่านที่ต้องการพิมพ์งาน และอยากหาโรงพิมพ์  โรงพิมพ์ลาดพร้าว ติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท ลักษมีรุ่ง จำกัด ลาดพร้าว 101 ที่ https://laxmirung.com/ และคุยทาง LINE ID : @laxmirung 

#โรงพิมพ์ #โรงพิมพ์ลาดพร้าว #โบรชัวร์ #แคตตาล็อก #แผ่นพับ #ใบปลิว

ระบบพิมพ์ออฟเซ็ท Brand ใหม่ ECO3

 ECO3 ชื่อใหม่ของระบบการพิมพ์ออฟเซ็ทในฐานะธุรกิจอิสระ

จากการขายแผนกการพิมพ์ของ AGFA ให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเอกชน Aurelius ในสัปดาห์ที่แล้ว จนวันที่ 6 เมษายนได้มีการเปลี่ยนชื่อระบบการพิมพ์ของ AGFA ที่จำหน่ายทั่วโลก ให้เป็นแบรนด์ใหม่ในชื่อว่า ECO3 ธุรกิจออฟเซ็ทของ AGFA นี้มีพนักงานประมาณ 1600 คนในกว่า 30 ประเทศ มียอดขาย 779 ล้านยูโรในปีที่แล้ว โดยการพัฒนาระบบเทคโนโลยี่การพิมพ์เน้นไปที่ระบบนิเวศน์ ความประหยัดและการใช้งานที่สะดวกสบายที่เป็นจุดเด่นของระบบพิมพ์ของ AGFA 

แบรนด์ใหม่ ECO3 ใช้สโลแกนว่า "You Print. We Care" การเปิดตัวได้มีการรวมโลโก้เข้ากับสี CMYK เพื่อแสดงถึงการทำการพิมพ์ระบบ Process Color ที่ทางทีมงานได้มีทักษะความเชี่ยวชาญมานานหลายทศวรรษ ECO3 มีโรงงานผลิตเพลทในเยอรมัน อเมริกาใต้ และ จีน ในการผลิตเพลทออฟเซ็ท ซึ่งตลาดเดิมนั้นได้ครองตำแหน่งผู้นำตลาดเพลทในยุโรปและละตินอเมริกา ในกลุ่มบริษัทยังมีระบบซอฟแวร์และ Workflow พร้อมระบบ CTP และเคมีภัณฑ์เกี่ยวกับงานพิมพ์ หัวหน้าฝ่ายขายผลิตภัณฑ์ที่ดูแลการตลาดทั่วโลกของ ECO3 ได้ให้ความเห็นว่า แม้ว่าแบรนด์ โลโก้ จะเปลี่ยนไป การดูแลลูกค้าจะต้องไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ลูกค้ายังคงสามารถพึ่งพากับฝ่ายบริการและวิศวกรบริการได้ต่อไปปัจจุบัน Christian Tebroke หุ้นส่วนของ Aurelius ดำรงตำแหน่ง CEO ชั่วคราวเพื่อดูแลธุรกิจของ ECO3 จนกว่าจะมีการแต่งตั้ง CEO คนใหม่

ท่านที่สนใจพิมพ์งานพิมพ์ระบบออฟเซ็ทและดิจิตอลออฟเซ็ท ติดต่อสอบถามได้ที่ โรงพิมพ์ลักษมีรุ่ง โรงพิมพ์ลาดพร้าว โรงพิมพ์ครบวงจรประสบการณ์มากว่า 30 ปี รับผลิต ถุงกระดาษ นามบัตร กระดาษหัวจดหมาย ซองจดหมาย ป้ายแขวน  ฉลากสินค้า กระดาษห่อของ กล่องออฟเซ็ท ฯลฯ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://laxmirung.com/ หรือสอบถามทาง LINE Official : @laxmirung  

#โรงพิมพ์ #ออฟเซ็ท #ดิจิตอลออฟเซ็ท #โรงพิมพ์ลาดพร้าว

AGFA ขายแผนกสินค้าด้านการพิมพ์ให้กับ Aurelius

แผนกการพิมพ์ AGFA มีการเปลี่ยนเจ้าของใหม่

Agfa Offset Solutions Division เป็นสาขาหนึ่งของ Agfa-Gevaert Group ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติเบลเยียมที่เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพและเทคโนโลยีสารสนเทศ แผนกโซลูชั่นออฟเซ็ตมุ่งเน้นการพัฒนาและจัดหาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์โดยเฉพาะ ช่น ระบบ Computer to Plate, ซอฟแวร์ Workflow สำหรับงานพิมพ์ ซอฟต์แวร์เวิร์กโฟลว์ และเครื่องมือการจัดการสี หรือ CMS Management ฯลฯ

ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2566 บริษัทแม่ที่เบเยี่ยมได้ตกลงขายแผนก Offset Solutions ให้กับ Aurelius Group เป็นเงิน 92 ล้านยูโรโดยใช้เวลาในการเจรจาตกลงกันเกือบ 8 เดือนเนื่องจากความซับซ้อนในการแยกธุรกิจด้านการพิมพ์ออกจากบริษัท Agfa-Gavaert Group โดยการขายธุรกิจการพิมพ์ก็ยังรวมถึงซอฟแวร์ประหยัดหมึก Spir@l ซึ่งเป็นซอฟแวร์สุดยอดที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Offset Solutions ของ AGFA

บริษัท Aurelius เป็นบริษัทเอกชนสัญชาติยุโรปที่ก่อตั้งในปี 2549 โดย Dirk Markus บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี และมีสำนักงานอีกหลายแห่งในที่ต่างๆ ทั่วยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย Aurelius เชี่ยวชาญในการเข้าซื้อบริษัทที่เผชิญกับความท้าทายทางการเงิน การดำเนินงาน หรือกลยุทธ์ และช่วยให้พวกเขาพลิกผลการดำเนินงานและประสบความสำเร็จในระยะยาว บริษัทใช้วิธีปฏิบัติจริงในการบริหารจัดการ โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้บริหารของบริษัทในพอร์ตฟอลิโอเพื่อดำเนินการปรับปรุงการดำเนินงาน มาตรการประหยัดต้นทุน และกลยุทธ์การเติบโต นับตั้งแต่ก่อตั้ง บริษัท Aurelius ได้ซื้อกิจการมากกว่า 150 บริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการผลิต ยานยนต์ การดูแลสุขภาพ และเทคโนโลยี 

Aurelius มีประวัติอันแข็งแกร่งในการสร้างมูลค่าให้กับนักลงทุน และบริษัทในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทก็ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงผลกำไรและการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญภายใต้การเป็นเจ้าของ การที่ AGFA ตัดสินใจขายธุรกิจด้านการพิมพ์ให้กับ Aurelius จะทำให้สินค้าของ AGFA จะยังคงความเป็นผู้นำในตลาดการพิมพ์ได้  สินค้าเดิมของ AGFA ในส่วนของ Offset Solutions จะยังคงให้บริการต่อไปรวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองเช่น เพลทออฟเซ็ต ฟิล์มกราฟิก ซอฟต์แวร์ เคมีภัณฑ์ อุปกรณ์และบริการ โดยคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแบรนด์ชื่อใหม่ในเร็ววันนี้  ฝ่ายการพิมพ์ดิจิทัลและเคมีภัณฑ์ของ AGFA มียอดขาย 372 ล้านยูโร และธุรกิจอื่นๆ ในด้านการดูแลสุขภาพและรังสีวิทยามียอดรวมสำหรับธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ต่ำกว่า 1.08 พันล้านยูโรในปีที่แล้ว ข่าวในการขายธุรกิจด้านการพิมพ์ให้กับบริษัท  Aurelius ทำให้ราคาหุ้นของ AGFA เพิ่มขึ้น 9.27% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ €2.83 สูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ (สูงสุด €4.16 ต่ำสุด €2.44)

ท่านที่สนใจหาโรงพิมพ์ โรงพิมพ์ลาดพร้าว ติดต่อสอบถามขอราคาได้ที่ บริษัท ลักษมีรุ่ง จำกัด ลาดพร้าว 101 รับพิมพ์งานออฟเซ็ท ดิจิตอลออฟเซ็ท อิงค์เจ็ท และสติ๊กเกอร์ติดรถ 3M สนใจพูดคุยเพิ่มเติมทาง LINE Official ID : @laxmirung หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซท์ https://laxmirung.com/

#พิมพ์ออฟเซ็ท #พิมพ์ดิจิตอลออฟเซ็ท #สติ๊กเกอร์ติดรถ # โรงพิมพ์ #โรงพิมพ์ลาดพร้าว