การเลือกสเปคถุงกระดาษให้กับโรงพิมพ์
1. ขนาดถุง : แจ้งขนาดถุงกระดาษ ความกว้าง x ความสูง x ความหนา (หน่วยเป็น ซ.ม. หรือ นิ้ว)
2. ชนิดกระดาษ : กระดาษที่นิยมทำถุงแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ
- กระดาษการ์ดอาร์ต เหมาะกับงานพิมพ์ถุงกระดาษแฟชั่น หรือ ถุงกระดาษสวย ๆ ซึ่งกระดาษการ์ดอาร์ตมีทั้งกระดาษการ์ดอาร์ต 2 หน้าและ 1 หน้า กระดาษการ์ดอาร์ต 1 หน้าจะแข็งแรงกว่าการ์ดอาร์ต 2 หน้า ความหนาของกระดาษการ์ดอาร์ตที่นิยมมีขนาด 210, 230, 260, 270, 300 และ 310 แกรม
- กระดาษคราฟท์น้ำตาล เหมาะกับงานที่ต้องการลักษณะงานที่รักสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีกระดาษน้ำตาลคุณภาพงานพิมพ์ KI ความหนา 150 แกรมและ 185 แกรม และถ้าต้องการกระดาษคราฟท์น้ำตาลคุณภาพดีและหนาเป็นพิเศษ จะใช้กระดาษ Kraftpak หนา 230 แกรม และ 300 แกรม
- กระดาษสีขาวที่ไม่ต้องการเคลือบ อาจเลือกใช้กระดาษการ์ดขาว 150 แกรม, 180 แกรม, 210 แกรม, 240 แกรม หรือ 270 แกรม ถ้าต้องการกระดาษที่พิมพ์แล้วรองรับคุณภาพดีกว่าอาจเลือกใช้กระดาษรีไซเคิล Green Card 200 แกรม หรือ 250 แกรมของ SCG ก็เป็นที่นิยมเพราะพิมพ์ได้คุณภาพดีมาก
3. พิมพ์ออฟเซ็ทกี่สี : พิมพ์ 1 สี (สีธรรมดาหรือสีพิเศษ) ถ้าเป็นสีพิเศษหรือสี Pantone ต้องแจ้งเบอร์สีให้โรงพิมพ์ด้วย, พิมพ์ 2 สี, พิมพ์ 4 สี หรือพิมพ์ 5 สี (CMYK + สีพิเศษ)
4. การเคลือบ : ถุงกระดาษอาจเคลือบหรือไม่เคลือบก็ได้ แต่ถ้าเคลือบนิยมเคลือบ OPP เงาหรือด้าน แต่ห้ามเคลือบด้วย UV เด็ดขาด เพราะถ้าเคลือบ UV เวลาขึ้นรูปถุงจะทำให้ตอนปั๊มขึ้นรูปจะมีรอยแตกตรงรอยปั๊มถุงได้
5. เชือกหูหิ้ว : หูหิ้วที่นิยมทำถุงมักจะเป็นเชือก PP ซึ่งสีปกติที่มีเลือกจะเป็นสีดำและสีขาว สีอื่นต้องตรวจสอบว่ามีวัสดุในตลาดเพียงพอหรือไม่ ถ้าเป็นสีพิเศษจำนวนมากสามารถสั่งเชือกพิเศษได้ ถ้าต้องการเชือกคุณภาพสูงขึ้นอาจใช้เชือกที่ทำจากวัสดุไนลอน แต่ถ้าเป็นถุงกระดาษน้ำตาลหรือถุงกระดาษการ์ดขาวหรือกรีนการ์ด จะนิยมใช้เชือกเกลียวกระดาษน้ำตาลหรือเชือกเกลียวกระดาษขาว บางท่านอาจจะเจาะรูติดเชือกริบบิ้นได้
ท่านที่สนใจสั่งงานถุงกระดาษ ติดต่อโรงพิมพ์ลักษมีรุ่งได้ที่
https://www.laxmirung.com/ หรือโทร. 0914855445 เรายินดีให้ข้อมูลและเสนอราคาให้อย่างเร็วที่สุด