วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เลือกพิมพ์แบบไหนดี ดิจิตอล หรือ ออฟเซ็ท เป็นคำถามที่คนที่ใช้บริการงานพิมพ์ทุกคนอยากจะทราบ กระบวนการพิมพ์ ที่ โรงพิมพ์ ให้บริการในปัจจุบันคือ โรงพิมพ์ออฟเซ็ท Offset และ โรงพิมพ์ดิจิตอลออฟเซ็ท Digital Offset ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เทคนิคการพิมพ์ Offset ขั้นตอนการพิมพ์ Offset  การควบคุฒคุณภาพงานพิมพ์ออฟเซต หรือ หมึกพิมพ์ออฟเซ็ท ก็แตกต่างจากการพิมพ์ระบบ Digital Offset โดยสิ้นเชิง สำหรับผู้สั่งงานพิมพ์จำเป็นต้องมีความรู้ในการเลือกว่างานที่จะผลิตควรใช้ Offset Printing หรือ Digital Offset 



ในโพสต์นี้จะพูดถึงข้อดีข้อเสีย 8 ประเด็นในการเลือกระหว่าง กระบวนการพิมพ์ ของ โรงพิมพ์ ที่ใช้ระบบ offset printing และ digital offset
  1. ขนาดของงานพิมพ์ : ถ้าขนาดใหญ่กว่า A3 ควรเลือกใช้ offset printing ถ้าขนาด A3 หรือเล็กกว่าพิมพ์ได้ทั้ง offset printing หรือ digital offset 
  2. วัสดุที่ใช้พิมพ์ : ระบบการพิมพ์ offset printing สามารถรองรับกระดาษได้กว้างและหลากหลายกว่า และยังพิมพ์งานกระดาษที่หนาได้ด้วย สำหรับ digital offset รองรับกระดาษปกติธรรมดาที่เรียบและมีน้ำหนักกระดาษไม่มากกว่า 300 แกรม
  3. จำนวนการพิมพ์แปรผันกับต้นทุน : ระบบการพิมพ์ offset printing เหมาะกับงานพิมพ์จำนวนมาก ประมาณ 200 - 300 ใบพิมพ์ขึ้นไป และ ระบบการพิมพ์ digital offset เหมาะกับงานพิมพ์ประมาณ 200 ใบพิมพ์ลงมา จำนวนยิ่งมาก กระบวนการพิมพ์ offset printing ก็จะถูกกว่า ถ้าจำนวนน้อย กระบวนการพิมพ์ digital offset จะคุ้มมากกว่า
  4. ความรวดเร็วในการผลิต : ขั้นตอนการพิมพ์ offset printing จำเป็นต้องทำเพลท ก่อนพิมพ์ และต้องสั่งกระดาษรีมใหญ่มาตัด จึงใช้เวลาในการผลิตนานกว่า กระบวนการผลิต digital offset ซึ่งเป็นระบบ ปริ้นงานด่วน ได้เพราะสามารถสั่งพิมพ์ตรงจากไฟล์ไปที่เครื่องพิมพ์โดยไม่ต้องทำเพลทหรือแม่พิมพ์เลย
  5. การควบคุมคุณภาพสี : digital printing คือ ระบบที่พิมพ์ได้รวดเร็ว แม่นยำเรื่องสีมาก เพราะใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวปล่อยและตรวจสอบสีด้วยระบบอีเล็คโทรนิค สำหรับ offset printing ยังมีปัญหาในขั้นตอนการพิมพ์ offset เพราะอาศัย ช่างพิมพ์ เป็นหลักในการปล่อยสีและดูแล การควบคุม คุณภาพงานพิมพ์ออฟเซ็ท ถ้าจำนวนพิมพ์น้อย ระบบ offset printing จะมีปัญหาด้านการพิมพ์มากกว่า digital offset แน่นอน
  6. การรองรับระบบหมึก : โรงพิมพ์ออฟเซ็ท สามารถรองรับการพิมพ์งานในระบบ CMYK หรือ Process Color และรองรับการพิมพ์สีพิเศษ Spot Color, สี Pantone หรือ สี Metallic (ทอง, เงิน, pink gold) ได้ แต่ ระบบ digital offset ปกติจะรองรับเฉพาะงาน Process Color หรือสี CMYK เท่านั้น
  7. รองรับงานพิมพ์ Tailored-made หรือ Unique Printing : ระบบ Digital Offset เป็นระบบที่สามารถพิมพ์ได้ตั้งแต่งาน 1 ใบ หรือ 1 เล่มขึ้นไปได้ และสามารถเปลี่ยนค่าตัวแปรในงานพิมพ์ได้ จึงเป็นงานพิมพ์ที่รองรับระบบ CRM ได้ดีมาก หรือสามารถพิมพ์งานที่จำเป็นต้องมีเปลี่ยนข้อมูลและมีจำนวนการพิมพ์น้อยในแต่ละส่วนข้อมูล เช่น งานนามบัตร, บัตรเชิญ, ประกาศนียบัตร, วิทยานิพนธ์, โบรชัวร์เฉพาะลูกค้า VIP, ฯลฯ สำหรับการพิมพ์แบบนี้เป็น ปัญหาการพิมพ์ออฟเซ็ท เพราะไม่สามารถรองรับการทำงานลักษณะนี้ได้ เนื่องจากต้องทำเพลท เสียกระดาษในการไล่สี และต้องพิมพ์จำนวนเยอะถึงจะคุ้มทุนของต้นทุน Fixed Cost ในการผลิตสิ่งพิมพ์
  8. บุคคลากรในงานพิมพ์ : งานดิจิตอลออฟเซ็ท ใช้ช่างอาร์ตทีสทำการยิงไฟล์งานลูกค้าตรงไปที่เครื่องพิมพ์ digital offset ได้ทันที ในขณะที่ โรงพิมพ์ออฟเซ็ท ต้องอาศัยกระบวนการพิมพ์ ที่ยึดโยงกับ ช่างพิมพ์ งานพิมพ์จะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและปัจจัยที่มีผลต่องานมากที่สุดคือ ช่างพิมพ์ ซึ่งยากที่จะควบคุมการดูแลงานให้ได้ผลงานที่ดี 100% ได้

ข้อมูลนี้ได้รับการจัดทำโดย ธนินพงษ์ ศุภพิทักษ์พงษ์ โรงพิมพ์ลักษมีรุ่ง (Laxmirung Co., Ltd.) โรงพิมพ์ ลาดพร้าว 101 โรงพิมพ์ โพธิ์แก้ว 3 แยก 9 สนใจปรึกษางานพิมพ์ว่างานของท่านควรจะใช้ระบบ offset printing หรือ digital offset สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 0914855445 หรือ Line ID : @laxmirung หรืออีเมล์ laxmirung1970@gmail.com

เว็ปไซท์ โรงพิมพ์ลักษมีรุ่ง โรงพิมพ์ ลาดพร้าว 101 โรงพิมพ์ โพธิ์แก้ว https://www.laxmirung.com/

#โรงพิมพ์ออฟเซ็ท #พิมพ์ดิจิตอล #ระบบการพิมพ์

สุดยอดโปรแกรม VECTOR

สุดยอดโปรแกรมกราฟฟิกแบบ Vector 1. โปรแกรม Adobe Illustrator เป็นซอฟแวร์เวคเตอร์ที่นิยมที่สุดและเป็นโปรแกรมที่กราฟฟิกดีไซน์เนอร์เมือ...